วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554

หลวงพ่อดีเนาะ

พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ อดีตสมภารวัดป่าชิคาโก  แสดงธรรมไว้หลายธรรมมาสน์  คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย
> (
สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี) ฟังแล้วติดใจ เอามาพิมพ์เป็นหนังสื่อ ชื่อ หักหอกเป็นดอกไม้
>
>
เรื่องหนึ่งที่ท่านเทศน์ เป็นเรื่องของหลวงพ่อวัดหนึ่ง ซึ่งขึ้นชื่อลือชากันว่า ท่านเป็นพระที่มีแต่ความสุข  ไม่เคยมีความทุกข์
>
>
วัน หนึ่ง โยมมานิมนต์ท่านไปเทศน์ที่บ้าน บอกท่านว่าจะมารับแต่เช้า หลวงพ่อก็นั่งรอจนสายโยมก็ไม่มาสักที
>
หลวงพ่อก็ว่า "ไม่มา ก็ดีเหมือนกันเนาะ เราฉันข้าวของเราดีกว่า"
>
ฉันข้าวได้ไม่กี่คำ โยมก็มารับพอดี กราบกรานขอโทษที่มาช้า เหตุเพราะว่ารถเสีย
>
หลวงพ่อวางช้อน "อือ ก็ดีเนาะ ไปฉันที่งานเนาะ"
>
>
นั่ง รถไปได้สักพัก เครื่องรถก็ดับอีก คนขับบอก "รถเสียครับ"
>
หลวงพ่อก็ว่า "ดีเนาะ ได้หยุดพักชมวิวเนาะ"
>
คนขับซ่อมเครื่องรถได้พัก ก็ออกปากขอให้หลวงพ่อช่วยเข็นรถ
>
ความจริงหลวงพ่อก็แก่ ข้าวก็ฉันได้ไม่กี่คำ แ ต่ทานก็ยิ้ม บอกว่า
> "
โอ้ดีเนาะ ได้ออกกำลังเนาะ"
>
แล้วก็ขมีขมันออกแรงช่วยเข็นรถจนวิ่งได้
>
>
ไปถึงบ้านงาน เวลาเลยเที่ยง หมดเวลาฉันอาหารไปแล้ว เป็นอันว่า
>
วันนั้นหลวงพ่ออดข้าว เจ้าภาพก็ร้อนใจ
>
อะไรๆก็เลยเวลามานาน นิมนต์ท่านขึ้นเทศน์ทันที
> "
ดีเนาะ มาถึงก็ได้ทำงานเลยเนาะ"
>
>
หลวง พ่อว่าแล้วก็ขึ้นธรรมมาสน์เทศน์จนจบ มีคนชงกาแฟถวาย
>
แต่เผลอตักเกลือใส่แทนน้ำตาลหลวงพ่อจิบกาแฟไปหนึ่งคำ แล้วก็บอกโยมว่า
> "
โอ้ดีเนาะ ดีๆ" แล้วก็วาง ธรรมเนียมของหลวงพ่อขลังๆ เวลาท่านฉันอะไร
>
ลูกศิษย์ก็ อยากได้บ้าง ว่ากันว่าเป็นสิริมงคลดีนักเรียงหน้ารอกันเป็นแถว
>
ลูกศิษย์คนแรก ดื่มกาแฟก็พ่นพรวดออกมา "เค็มปี๋เลยหลวงพ่อ
>
ฉันเข้าไปได้ยังไง!"
> "
ก็ดีเนาะ ฉันกาแฟหวานๆมานาน" หลวงพ่อว่า
> "
ฉันเค็มๆมั่งก็ดีเหมือนกัน"
>
>
ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก ลมแรง น้ำท่วม หรือคนด่า
>
หลวงพ่อท่านมองไปในแง่ดีได้หมด
>
มีลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งไปทำผิด ถูกจับไปติดคุก ท่านก็ว่า "ก็ดีเนาะ
>
มันจะได้ศึกษาชีวิต"
>
ท่าน อาจารย์ประสงค์บอกว่า หลวงพ่อองค์นี้ ชื่ออะไร อยู่วัดไหน
>
ตัวท่านเคยจดไว้ แ ต่ทำสมุดที่จดหายจำได้เพียงแต่ว่า
>
คนอีสานเขาสรรเสริญท่านมาก
>
>
แม้ท่านจะชื่อจริงอะไร ก็คงไม่มีใครจำ เพราะต่างก็เรียกท่านว่า
> "
หลวงพ่อดีเนาะ" กันหมดแล้ว
>
เรื่อง ของหลวงพ่อดีเนาะ เป็นหนึ่งตัวอย่างในเรื่อง
> "
หักหอกเป็นดอกไม้" ทุกข์สุข ดีเลวล้วนแล้วแต่อยู่ที่วิธีคิด
>
ถ้าคิดเป็นบวก เรื่องก็ออกมาเป็นบวก...
>
หลวง พ่อดีเนาะแห่งวัดมัชฌิมาวาส อุดรธานี ซึ่งมองโลกในแง่ดี
>
ไม่เคยจับผิดใคร ไม่เคยว่าใคร เจอปัญหาอะไรๆ ก็พูดว่า ดีเนาะ” …
>
จนกระทั่งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
>
ให้เป็นพระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาทีซึ่งแปลว่า ดีเนาะ
>
>
หลวงพ่อ ดีเนาะเป็นเกจิอาจารย์มีชื่อของจังหวัดอุดรธานี ที่ใคร ๆ
>
ก็รู้จัก ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาและผู้เคารพนับถือทั่วประเทศ
>
มีเรื่องเกี่ยวกับการบำเพ็ญบารมีและการประพฤติปฏิบัติตนของหลวงพ่อดีเล่าขานกันมากมายหลายเรื่องเช่นมีผู้ เล่าว่า เนื่องจากหลวงพ่อดีมีผู้เคารพนับถือมาก จึงมีผู้มาถวายจต ุปัจจัย
>
ข้าวของเครื่องใช้ที่มีค่าแก่ท่านมากมาย
>
ในกุฏิของหลวงพ่อดีจึงมีข้าวของเงินทองที่เตะตาล่อโจรให้อยากลองของมากมาย แต่ดูเหมือนว่าหลวงพ่อท่าน
>
ไม่ค่อยจะสนใจวัตถุรอบกายของท่านแต่อย่างใดอยู่มา วันหนึ่ง
>
หลวงพ่อดีก็ถูกขุนโจรใจโหดปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์มากมาย ถือปืนบุกเข้าประชิดตัวหลวงพ่อ
>
บนกุฏิพร้อมทั้งประกาศก้อง
> “
นี่คือการปล้น อย่าได้ขัดขืนนะหลวงพ่อ
>
หลวงพ่อดียิ้มกับโจรด้วยอารมณ์ดีและไม่มีอาการสะทกสะท้าน ท่านกล่าวกับโจรอย่างนิ่มนวลว่า
> “
ปล้นก็ดีเนาะโจรชักแปลกใจในคำพูดและท่าทีของหลวงพ่อ โจรพูดว่า
> “
ถูกปล้นทำไมว่าดีละหลวงพ่อหลวงพ่อดีตอบว่า
> “
ทำไม่จะไม่ดีละ ก็ข้าต้องทนทุกข์ทรมานเฝ้าไอ้สมบัติบ้า ๆ
>
นี้ตั้งนานแล้ว เอ็งเอาไปเสียให้หมดข้าจะได้ไม่ต้องเฝ้ามันอีก
>
โจรขู่อีก
> “
ไม่ใช่ปล้นอย่างเดียวฉันต้องฆ่าหลวงพ่อด้วย เพื่อปิดปากเจ้าทรัพย์
>
หลวงพ่อดีก็ตอบเหมือนเดิม
> “
ฆ่าก็ดีเนาะโจรแปลกใจจึงถามว่า
> “
ถูกฆ่ามันจะดีได้อย่างไรละหลวงพ่อหลวงพ่อดีตอบ
> “
ข้ามันแก่แล้ว ตายเสียได้ก็ดี จะได้ไม่ทุกข์ร้อนอะไร
>
โจรรู้สึกอ่อนใจเลยบอกว่า
> “
ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ฆ่าหรอกหลวงพ่อดีก็พูดเหมือนเคย
> “
ไม่ฆ่าก็ดีเนาะโจรถามอีก
> “
ทำไมฆ่าก็ดี ไม่ฆ่าก็ดีอีกหลวงพ่อดีบอกว่า
> “
การ ฆ่ามันเป็นบาป เอ็งจะต้องชดใช้เวรทั้งชาตินี้และชาติหน้า
>
อย่างน้อยตำรวจเขาจะต้องตามจับเอ็งเข้าคุก เข้าตะราง  หรือไม่ก็ถูกฆ่าตาย
>
ตายแล้วก็ยังตกนรกอีก
>
โจรเลยเปลี่ยนใจถ้าอย่างนั้นฉันไม่ปล้นหลวงพ่อแล้ว
>
หลวงพ่อดีก็ตอบอีกว่าไม่ปล้นก็ดีเนาะ
>
มี ผู้เล่าต่อมาว่า ในที่สุดโจรคนนั้นก็สำนึกบาปเข ้ามอบตัวกับตำรวจ
>
เมื่อพ้นโทษออกมาก็ขอให้หลวงพ่อดีบวชให้และบำเพ็ญศีลภาวนาตลอดมา
>
ส่วนหลวงพ่อดีมีคนให้ฉายาท่านว่า หลวงพ่อดีเนาะมาจนทุกวันนี้
>
ท่านมีตัวตนอยู่จริงครับ
>
พระเทพวิสุทธาจารย์ (หลวงปู่ดีเนาะ)
>
วัดมัชฌิมาวาส อ.เมือง จ.อุดรธานี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น